สัญญาจ้างงานทำหน้าที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยสรุปข้อกำหนดและเงื่อนไขของการจ้างงาน เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญา อาจนำไปสู่การผิดสัญญาได้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจความซับซ้อนของการละเมิดสัญญาในบริบทของข้อตกลงการจ้างงาน โดยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาการจ้างงาน
สัญญาจ้างงานเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมายซึ่งระบุเงื่อนไขการจ้างงาน รวมถึงความรับผิดชอบในงาน ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ ชั่วโมงการทำงาน และอื่นๆ การผิดสัญญาเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลง
ภาระหน้าที่ของนายจ้าง
การจ่ายค่าจ้าง: นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างและผลประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
จัดหาสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย: นายจ้างต้องมั่นใจว่ามีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย
การเสนอผลประโยชน์: หากสัญญารวมผลประโยชน์ต่างๆ เช่น ประกันสุขภาพ แผนการเกษียณอายุ หรือวันหยุดที่ได้รับค่าจ้าง นายจ้างมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาผลประโยชน์เหล่านี้ตามที่ระบุไว้
ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ตกลงไว้: นายจ้างต้องปฏิบัติตามสัญญาทั้งหมดที่ให้ไว้ในสัญญา รวมถึงความรับผิดชอบในงาน ตำแหน่ง และเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ ที่ระบุไว้
ภาระหน้าที่ของพนักงาน:
การปฏิบัติหน้าที่: พนักงานถูกคาดหวังให้ปฏิบัติตามหน้าที่รับผิดชอบตามที่ระบุไว้ในสัญญาและเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน
การรักษาความลับ: หากสัญญามีเงื่อนไขการรักษาความลับ พนักงานต้องรักษาข้อมูลส่วนตัวของบริษัทที่ละเอียดอ่อน
นโยบายดังต่อไปนี้: พนักงานต้องปฏิบัติตามนโยบายและกฎเกณฑ์ของบริษัทตามรายละเอียดในสัญญาหรือคู่มือบริษัท
ข้อตกลงไม่แข่งขันและไม่เปิดเผยข้อมูล: พนักงานอาจถูกจำกัดไม่ให้เปิดเผยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือทำงานให้กับคู่แข่งในระหว่างและหลังการจ้างงาน
สถานการณ์การละเมิดสัญญา:
1. การไม่จ่ายเงิน: หากนายจ้างไม่ให้ค่าจ้างหรือสวัสดิการตามที่ตกลงไว้ ถือว่าผิดสัญญา ในทำนองเดียวกันหากพนักงานปฏิเสธที่จะทำงานทั้ง ๆ ที่มีสัญญาจ้างอยู่ก็ถือเป็นการละเมิดเช่นกัน
2. การเลิกจ้างโดยมิชอบ : หากนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่มีเหตุอันควรตามที่ระบุไว้ในสัญญาก็อาจผิดสัญญาได้ ในทำนองเดียวกัน หากพนักงานออกจากงานก่อนอายุสัญญาที่ตกลงไว้โดยไม่มีเหตุผลที่ถูกต้อง อาจถือเป็นการละเมิด
3. การละเมิดข้อกำหนดการไม่แข่งขัน: หากพนักงานเข้าร่วมองค์กรที่แข่งขันกันในขณะที่อยู่ภายใต้สัญญา พนักงานอาจละเมิดข้อตกลงการไม่แข่งขัน
4. ความล้มเหลวในการให้ผลประโยชน์ตามสัญญา: หากนายจ้างไม่ให้ผลประโยชน์ตามที่สัญญาไว้ในสัญญา จะถือเป็นการละเมิด
การขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย:
ในกรณีที่มีการผิดสัญญา ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายสามารถขอความช่วยเหลือทางกฎหมายได้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ย อนุญาโตตุลาการ หรือแม้แต่การฟ้องร้องเพื่อแก้ไขปัญหาและเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการละเมิด
สรุป
สัญญาจ้างงานมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานที่ยุติธรรมและมีประสิทธิผลระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่ระบุไว้ในข้อตกลงเพื่อรักษาสถานที่ทำงานที่มีความสามัคคี ในกรณีที่ละเมิดสัญญา ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการจ้างงานเพื่อทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทและการรักษาสิทธิและหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับใครที่ต้องการระงับข้อพิพาททางกฎหมาย ทั้งการเจรจาประนอมหนี้ ผิดสัญญา (Breach of Contract) การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อนุญาโตตุลาการ รวมถึงการระงับข้อพิพาทออนไลน์ สัญญาซื้อขาย ตลอดจนการสรรหาผู้ประนอมข้อพิพาทที่มีองค์ความรู้ในข้อพิพาทเฉพาะเจาะจง ผ่านการอบรมในการไกล่เกลี่ย และรู้ข้อกฎหมายในเบื้องต้น ทางสถาบันอนุญาโตตุลาการ THAC มีความยินดีที่จะให้บริการแก่ทุกคนที่สนใจ สนใจรายละเอียด คลิก
เกี่ยวกับเรา
สถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center) หรือ THAC เป็นสถาบันฯ ที่ให้บริการด้านการอนุญาโตตุลาการ และการประนอมข้อพิพาทในระดับสากล ดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และให้บริการด้านอนุญาโตตุลาการที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานสากล ด้วยประสบการณ์และความชำนาญทางวิชาชีพ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้มาใช้บริการจะได้รับบริการที่ถูกต้องรวดเร็ว อีกทั้ง THAC ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง และมีอัตราค่าบริการที่ต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย